แบบที่1 : การดูเลขชีวิต
เลขรหัสบัตรประจำตัวประชาชนนั้นมี 13 ตัว แต่เราจะดูเลขตัวสุดท้าย..คือการดูเลขชีวิตท่านว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ตัวอย่าง : เลขในบัตรประจำตัวประชาชนคือ 5 6485 54823 48 6 เลขตัวสุดท้ายคือเลข 6
แบบที่2 : การดูเลขคู่ชีวิต
เลขรหัสบัตรประจำตัวประชาชนนั้นมี 13 ตัว แต่เราจะเอาเลข 3 ตัวสุดท้ายมารวมกัน..คือการดูเลขคู่ชีวิตท่านว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ตัวอย่าง : เลขในบัตรประจำตัวประชาชนคือ 5 6485 54823 48 6 เลข 3 ตัวสุดท้ายคือ 4+8+6=18( ได้ 18 นำ 1+8=9 )
ความหมายของเลขศาสตร์ ตามบัตรประจำตัวประชาชนมีดังนี้
หมายเลข 1แสดงถึงความเด็ดเดี่ยว กล้าทำ กล้าแสดงออก เป็นผู้นำในหน้าที่การงาน อยู่ในจำพวกแนวหน้า และบางครั้งถูกคนอื่นมาขอความช่วยเหลือทั้งทรัพย์สินเงินทอง และคำปรึกษาอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าที่ควร แต่หากไม่พอใจใครแล้ว เขาจะไม่สนใจเลยเด็ดขาด เป็นจำพวกหยิ่งในศักดิ์ศรีฆ่าได้หยามไม่ได้ไม่ยอมก้มหัวเพื่อลดศักดิ์ศรีให้ใคร หากจำเป็นจริงๆ ยอมให้ได้เพียงกายเท่านั้น จะมีนิสัยละเอียดอ่อนในเรื่องความรัก ยอมหมดเปลืองเท่าไหร่ก็ยอมเพื่อความรักในอนาคตหากเป็นนักธุรกิจ จะประสบความสำเร็จ และสามารถทำงานได้ดีทุกแขนง
หมายเลข 2
แสดงถึงความสำเร็จ ความอบอุ่น จากมิตร-บริวาร แต่บางครั้งไม่ค่อยมีความเด็ดขาดไปบ้าง เป็นคนที่ไม่ชอบอยู่คนเดียว หากจะลงทุนทำธุรกิจถ้าได้ร่วมทำกับคนอื่นจะดีกว่าทำคนเดียว จะมีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม เป็นที่รักใคร่ของเหล่าเพื่อนฝูง แต่บางครั้งจะโดนอิจฉาอยู่บ่อยๆ เพราะเสน่ห์ดีเกินไป ตามเลขศาสตร์บ่งบอกว่าหากจะให้ ทำงานสำเร็จ โด่งดัง มีชื่อเสียง จะต้องทำงานร่วมกับคู่ครองตนเอง วัยกลางคนจะได้มีความสุขกับครอบครัวฐานะดีมีความสบายตามลำดับ
หมายเลข 3แสดงถึงความทุกข์ใจ จะมีปัญหาเรื่องต่างๆ ผ่านเข้ามาในชีวิตอยู่เรื่อยๆ หากจิตใจไม่เข้มแข็งจะทำให้ ทุกข์ใจไม่สบายกายอยู่เรื่อยไป และจะต้องเพิ่มการเอาใจใส่คู่ครอง และครอบครัวให้มากกว่าเดิม ระวังจะมีปัญหากับบุคคลที่ 3 เข้ามาสร้างความแตกแยกในครอบครัว ( หมายเลข 3 นี้เป็นเลขแห่ง เงารัก เงาร้าง ) ถ้าจะลงทุนทำธุรกิจ ไม่ควรที่จะร่วมหุ้นหรือไว้ใจบริวารให้มากนัก อย่าเป็นนักบุญให้ผู้อื่นจนเกิดเป็นความทุกข์ให้กับตนเอง และหากช่วยเหลือใครแล้ว จะหวังผลคืนได้ยาก เพราะหมายเลข 3 เป็นเลขของผู้ให้ๆ อย่างเดียว แต่เมื่อผ่านปัญหาทั้งปวงไปแล้วอีกไม่นาน จะมีความสุขความสบายกับครอบครัว
หมายเลข 4แสดงถึงเลขแห่งจักรพรรดิ จะมีคนคอยเป็นห่วง จะเป็นที่รักใคร่ของผู้สูงอายุ แต่จะมีความเหน็ดเหนื่อยมากอยู่เหมือนกัน เพราะคำว่า "" แม่ทัพ "" ก็รู้ความหมายอยู่แล้ว ไม่มีแม่ทัพคนใดไม่มีผลงานแล้วจะได้เป็นแม่ทัพหรอกน่ะ แต่หมายเลข 4 เป็นเลขแห่งความสำเร็จ ความยิ่งใหญ่ ความก้าวหน้า ความท้าทาย หากจะให้มีความเจริญ ก้าวหน้าเร็วๆ ก็ต้องกล้าทำ กล้าแสดงออก กล้าตัดสินใจ แต่ระวังจะมีเพศตรงข้ามหลงรัก และเข้ามาขอสวามิภักดิ์ด้วย และไม่ต้องเป็นห่วงจะทำอะไรก็จะมีคนคอย สรรเสริญเยินยอ แต่ก่อนที่จะมีการเยินยอก็จะมีการติฉินนินทาก่อน หากอดทนไม่สนใจ ไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นได้ละก็ชีวิตนี้รวยใจสบายกายอย่างแน่นอน
หมายเลข 5แสดงถึงเลขแห่งเวทมนต์ และเสน่ห์หากับเพศทั่วไป มีความหยิ่งทะนงในตัวเอง ยอมก้มหัวให้ผู้อื่นได้แค่กายแต่ใจนั้นไม่ยอมใคร เป็นที่ปรึกษาผู้อื่นได้ดี แต่ตนเองยาม เดือดร้อนหาใครช่วยปรึกษาด้วยนั้นช่างยากมาก เพราะหมายเลข 5 จะมีความสบายกายแต่ทุกข์ใจอยู่เรื่อยเพราะคิดมากจนเกินเหตุ และจะเป็นที่รักใคร่ของญาติมิตร หากดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเอกสารจะประสบความสำเร็จดี มีชื่อเสียง แต่ไม่ว่างานด้านไหนๆ หมายเลข 5 ทำได้หมด แต่จะต้องมีเวลาให้กับเรื่องส่วนตัวบ้าง เช่น เรื่อง ความรักอย่าปล่อยให้นานเกินไป จะได้พึ่งพาอาศัยบุตร-บริวารในภายภาคหน้า จะมีความพอดีกับชีวิต เกิดความสุขตลอดกาล
หมายเลข 6แสดงถึงคนที่มีดีอยู่ในตัวแต่ไม่ค่อยยอมนำออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ อย่าปล่อยเวลากับความคิดให้มากนัก หมายเลข 6 เสน่ห์อยู่ที่ "" เงา "" ของตนเอง จะมีคนรักใคร่ เอ็นดูทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ แต่ต้องแต่งตัวให้เกิดจุดเด่นแก่ตนเอง และมีจิตสัมผัสเหนือธรรมชาติหากได้นั่งสมาธิบำเพ็ญศีลจะมีบารมีสูง ผู้คนจะรักใคร่เอ็นดู จะทำอะไรก็ล้วน แต่ประสบความสำเร็จดีทั้งสิ้น หมายเลข 6 ต้องลดโทนเสียงลงอีกเพราะโทนเสียงนั้นบ่งบอกถึงอำนาจ ความยิ่งใหญ่เกินตัว ไม่เพราะแก่ผู้ได้ยิน ผู้ใหญ่รักใคร่เอ็นดูสนับสนุน ในด้านการงาน เมื่อเกิดปัญหาใดๆ ตนเองมักจะเอาตัวรอดได้เสมอ จะมีความสุขในบั้นปลาย
หมายเลข 7อย่างปล่อยเวลาให้เสียไปกับคนอื่นให้มากนัก และอย่ายึดติดอยู่กับที่ เพราะหมายเลข 7 เป็นหมายเลขที่ต้องเดินทางเพื่อทำการค้า เป็นไกด์ หรือทำงานที่ต้องมีการเจรจา อยู่ตลอดเวลา จะทำให้ประสบความสำเร็จ ระวังจะมีปัญหาเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เกิดขึ้นในครอบครัว หรือเรื่องรัก 3 เศร้าเกิดขึ้นในชีวิตคู่ และปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ ก็ไม่ต้องวิตกให้มากนัก เพราะทุกอย่างจะคลี่คลายไปได้ด้วยดี การเงินถึงจะไม่คล่องบ้างบางครั้ง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะหมายเลข 7 เป็นเลขที่ส่งลาภผลอยู่เนื่องๆ หากผู้ใดที่ได้หมายเลข 7 ละก็ยอกเหนื่อยหน่อยน่ะในระยะต้นๆ และอีกไม่นานจะมีความสุข โชคลาภเพิ่มพูน และจะได้รับความสุขกับ มิตร-บริวาร
หมายเลข 8แสดงถึงคนมีบุญบารมี และวาสนาดี มีชื่อเสียงให้คนทั้งหลายได้ประจักษ์ แต่ต้องหมั่นเรียนรู้เร่งศึกษา อย่าอยู่นิ่ง กล้าเปิดเผย กล้าทำ กล้าแสดงออก กล้าตัดสินใจ รีบไขว่คว้าแล้วหน้าที่การงานที่ทำจะได้ผลดีเป็นที่พอใจ และผู้ใหญ่จะให้ความช่วยเหลือ อย่าหลงใหลมัวเมาในกิเลสตัณหาให้มากนัก อย่าสนุกจนลืมครอบครัว แล้วบั้นปลาย ชีวิตจะมีฐานะดี เป็นที่พอใจของวงศ์ตระกูล มีชื่อเสียงเป็นที่นับถือของคนทั่วไป ( แต่ต้องขยันให้มากๆ นะ )
หมายเลข 9แสดงถึงอำนาจ ความยิ่งใหญ่ หากเป็นผู้นำจะเจริญก้าวหน้า ทำงานด้วยสมอง เป็นนักพูด หรือนักบรรยายจะมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่หน้าที่ที่เหมาะคือผู้เผยแพร่ศาสนา จะมีผู้คนยกย่องสรรเสริญ และยังมีจิตสัมผัสเหนือคนทั่วไป บางครั้งสามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ใครได้หมายเลข 9 จะเป็นผู้อยู่เหนือลิขิตสวรรค์ จะทำอะไรก็สามารถ ประสบความสำเร็จได้ด้วยตนเอง แต่มีข้อเสียเพราะหมายเลข 9 เป็นเลขแห่งคุณความดี หากทำในสิ่งไม่ดี ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม หรือทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน จะได้รับ ผลกรรม ซึ่งจะหนักกว่าผู้อื่นหลายเท่า และจะต้องระวังเรื่องชู้สาวให้มาก อย่าใจอ่อน จะนำไปสู่ความเดือดร้อน เพราะจะมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม และผู้พบเห็น
หมายเหตุ : หลักในการพยากรณ์
เมื่อมีการคำนวณเลขชีวิต และ เลขคู่ชีวิต เรียบร้อยแล้วก็สามารถพยากรณ์ได้เลย ถ้าหากได้ตำแหน่งดีทั้ง 2 ด้าน ก็พยากรณ์ไปในด้านดี แต่ถ้าได้ตำแหน่งดีและไม่ดี ก็พยากรณ์ไปในด้านกลางๆ และถ้าหากได้ไม่ดีทั้ง 2 ด้าน ก็พยากรณ์ไปในด้านไม่ดีได้เลย ( ขอให้ทุกท่านโชคดี )
Thursday, 30 December 2010
Monday, 27 December 2010
Sunday, 19 December 2010
MUST SEE DUI VIDEO Be careful on this Christmas an New Year
Possibly one of the best DUI videos out there. This comes from a great Australian Ad Campaign made by TAC, the Australian Traffic Accident Commission! This is perhaps one of the most intense “commercials” that I've ever see. Australia should be complemented on having the fortitude to "tell it like it is" and get this campaign out to all of its licensed drivers by airing it on TV...it is very moving, very life like and it has a very strong impact. A more intense version of our Every 15 Minutes videos.Please click on DUI below.
Click here……… DUI
Please remember we are in the holiday season and will be visiting friends, family and attending parties where a lot of people will be drinking alcohol. Let’s make sure we and our families all get home safe this holiday season, drink responsibly if you do drink, or have a designated driver, and as the law says, “Stay safe, wear your seat belts, and watch out for each other.”
Click here……… DUI
Please remember we are in the holiday season and will be visiting friends, family and attending parties where a lot of people will be drinking alcohol. Let’s make sure we and our families all get home safe this holiday season, drink responsibly if you do drink, or have a designated driver, and as the law says, “Stay safe, wear your seat belts, and watch out for each other.”
ความสุขเกิดขึ้นเมื่อใด
ความสุข เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ความสุขไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางที่ไปถึง
คุณบอกกับตัวเองว่า เมื่อได้แต่งงาน และมีลูก ชีวิตของคุณก็จะดีขึ้น แต่เมื่อมีลูก และลูกของคุณยังเล็กอยู่ คุณก็เกิดความรู้สึกว่า เมื่อเขาโตขึ้นเราคงมีความสุขและสบายขึ้น
แต่เมื่อลูกโตมากขึ้น จนย่างเข้าสู่วัยรุ่น คุณกลับรู้สึกไม่ได้ดั่งใจอีกครั้ง และเมื่อลูก ๆ ผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นไปได้ คุณคิดว่า คุณจะมีความสุขมากขึ้น แต่คุณกลับบอกกับตัวเองอีกว่า จะรอให้ลูก ๆ จัดการกับตัวของเค้าเองให้เรียบร้อยดีเสียก่อน
บางครั้งคุณคิดว่า ถ้าคุณมีบ้าน มีรถ มีวันหยุดพักร้อนนาน ๆ และเมื่อถึงวันเกษียณอายุการทำงาน ชีวิตของคุณจะมีความสุขมากที่สุด แต่เมื่อเกษียนแล้วก็จริง แต่ทำไมถึงยังไม่มีความสุขสักที
ความสุขของชีวิตอยู่ที่ไหนกัน? แท้จริงแล้ว ความสุขของชีวิต อยู่ ณ ช่วงเวลาขณะนี้ ช่วงเวลาปัจจุบัน ไม่ต้องรอให้ความสุขมาหาเราในอนาคต เราควรมีความสุข และพึงพอใจกับความสุขอยู่ในปัจจุบัน
ชีวิตของมนุษย์ทุกคน ต้องมีสิ่งท้าทายเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ทั้งอุปสรรคต่าง ๆ หรือบททดสอบชีวิตอันยากเข็ญ แต่ในที่สุดเราก็จะต้องก้าวผ่านไป อุปสรรคกับชีวิตเป็นของคู่กัน ดังนั้น เป็นหน้าที่ของเรา ที่ต้องความสุขและความพึงพอใจจากการเดินทางบนถนนแห่งชีวิตนี้ซึ่งจะทำให้ชีวิตมีความสุข มากกว่าที่จะรอให้ถึงจุดหมายปลายทางก่อน แล้วถึงจะมีความสุขได้
เริ่มหยุดพูดกับตัวเองเสียทีว่า
ถ้าฉันลดน้ำหนักได้สัก 5 กิโล ฉันถึงจะมีความสุข
ถ้าฉันได้แต่งงาน ฉันถึงจะมีความสุข
ถ้าผมได้ซื้อบ้าน ผมถึงจะมีความสุข
ถ้าผมได้เกิดเป็นลูกคนรวย ผมถึงจะมีความสุข
ถ้าคุณหยุดพูดถึงสิ่งเหล่านี้ได้ ชีวิตของคุณก็จะมีความสุข
และคุณจะรู้สึกพึงพอใจกับชีวิต
ตอบคำถาม ต่อไปนี้1. บอกชื่อคน 3 คน ที่รวยที่สุดในโลก
2. บอกชื่อนางงามจักรวาล 3 คนล่าสุด
3. บอกชื่อ ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล 3 คนล่าสุด
4. บอกชื่อนักแสดงนำชาย 3 คนล่าสุด ที่ได้รับรางวัลออสการ์
นึกไม่ออกใช่ไหม? ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่มีใครหรอกที่จะจดจำคนเหล่านี้ได้ทั้งหมด คนที่ได้รับการยกย่องสรรเสริญ ก็ล้วนล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา รางวัลต่าง ๆ เมื่อวางไว้นาน ก็จะถูกฝุ่นจับ แม้แต่ผู้ชนะก็จะถูกลืมในไม่ช้า
ตอบคำถาม ต่อไปนี้
1. บอกชื่ออาจารย์ 3 ท่านที่เคยช่วยเหลือคุณในเรื่องการเรียน
2. บอกชื่อเพื่อน 3 คนที่ช่วยเหลือคุณในยามที่คุณต้องการ
3. นึกถึงคน 3 คนที่ทำให้คุณรู้สึกว่า คุณได้เป็นคนพิเศษ
4. บอกชื่อคน 3 คนที่คุณอยากใช้เวลาด้วย
นึกออกง่ายกว่าใช่ไหม? นั่นเป็นเพราะว่า คนที่มีความหมายต่อชีวิตคุณ ไม่ได้เป็นคนที่ต้องเป็นที่สุด ไม่ได้มีเงินมากที่สุด ไม่ต้องได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะยังมีคนใกล้ตัวคุณอีกหลายคน ที่ห่วงใยคุณ คอยให้การดูแลคุณ และเวลาที่มีอะไรเกิดขึ้น ก็จะคอยอยู่เคียงข้างคุณ
... ไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะมีความสุข มากกว่าช่วงเวลา ณ ปัจจุบันนี้.. ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับช่วงเวลาปัจจุบัน
๑. อย่าเปรียบเทียบ ชีวิตของตัว เองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขา มีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง
๒. อย่าคิดทางลบ เกี่ยวกับ เรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลก ในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิด ทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
๓. อย่าทำอะไร เกินกว่าที่ตัวเองทำได้ ...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
๔. อย่าเอา จริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขา ไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
๕. อย่า เสียเวลา และพลังงานอันมีค่าของคุณ กับ เรื่องหยุมหยิม หรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
๖. จงฝันตอนตื่น มากกว่าตอน หลับ
๗. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่าๆปลี้ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว
๘. ลืมเรื่อง ขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามี หรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
๙. ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร... จงอย่าเกลียดคนอื่น
๑๐. ประกาศ สงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
๑๑. ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
๑๒. จงเข้าใจเสียว่า ชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียน รู้ และ ปัญหาเป็น เพียง ส่วนหนึ่งของหลักสูตร ซึ่งมาแล้วก็หาย ไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอด ชีวิต
๑๓. จง ยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
๑๔. คุณ ไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถก เถียงกับคนอื่น หรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกัน ได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร
แล้ว เราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้าง เราล่ะ?
๑. อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ
๒. จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
๓. จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
๔. จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ
๕. พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
๖. คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่ เรื่องของคุณสักหน่อย
๗. งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหา สุขภาพ ดังนั้น อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด
และ ถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้ ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้
๑. ทำสิ่งที่ควรทำ
๒. อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่สวย ไม่น่ารื่นรมย์ จงทิ้ง ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม?
๓. เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผล ทุกอย่างได้
๔. ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด เดี๋ยว มันก็เปลี่ยน
๕. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน จงลุก จากเตียง แต่งตัว และปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย... get up, dress up and show up.
๖. สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
๗. ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้ อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า หรือสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
๘. เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุข เสมอ...ดังนั้น ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า
และสุดท้ายที่สำคัญที่สุด
"ส่งบทความที่ต่อไปให้คน ที่คุณรักและห่วงหาอาทรด้วย..."
คุณบอกกับตัวเองว่า เมื่อได้แต่งงาน และมีลูก ชีวิตของคุณก็จะดีขึ้น แต่เมื่อมีลูก และลูกของคุณยังเล็กอยู่ คุณก็เกิดความรู้สึกว่า เมื่อเขาโตขึ้นเราคงมีความสุขและสบายขึ้น
แต่เมื่อลูกโตมากขึ้น จนย่างเข้าสู่วัยรุ่น คุณกลับรู้สึกไม่ได้ดั่งใจอีกครั้ง และเมื่อลูก ๆ ผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นไปได้ คุณคิดว่า คุณจะมีความสุขมากขึ้น แต่คุณกลับบอกกับตัวเองอีกว่า จะรอให้ลูก ๆ จัดการกับตัวของเค้าเองให้เรียบร้อยดีเสียก่อน
บางครั้งคุณคิดว่า ถ้าคุณมีบ้าน มีรถ มีวันหยุดพักร้อนนาน ๆ และเมื่อถึงวันเกษียณอายุการทำงาน ชีวิตของคุณจะมีความสุขมากที่สุด แต่เมื่อเกษียนแล้วก็จริง แต่ทำไมถึงยังไม่มีความสุขสักที
ความสุขของชีวิตอยู่ที่ไหนกัน? แท้จริงแล้ว ความสุขของชีวิต อยู่ ณ ช่วงเวลาขณะนี้ ช่วงเวลาปัจจุบัน ไม่ต้องรอให้ความสุขมาหาเราในอนาคต เราควรมีความสุข และพึงพอใจกับความสุขอยู่ในปัจจุบัน
ชีวิตของมนุษย์ทุกคน ต้องมีสิ่งท้าทายเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ทั้งอุปสรรคต่าง ๆ หรือบททดสอบชีวิตอันยากเข็ญ แต่ในที่สุดเราก็จะต้องก้าวผ่านไป อุปสรรคกับชีวิตเป็นของคู่กัน ดังนั้น เป็นหน้าที่ของเรา ที่ต้องความสุขและความพึงพอใจจากการเดินทางบนถนนแห่งชีวิตนี้ซึ่งจะทำให้ชีวิตมีความสุข มากกว่าที่จะรอให้ถึงจุดหมายปลายทางก่อน แล้วถึงจะมีความสุขได้
เริ่มหยุดพูดกับตัวเองเสียทีว่า
ถ้าฉันลดน้ำหนักได้สัก 5 กิโล ฉันถึงจะมีความสุข
ถ้าฉันได้แต่งงาน ฉันถึงจะมีความสุข
ถ้าผมได้ซื้อบ้าน ผมถึงจะมีความสุข
ถ้าผมได้เกิดเป็นลูกคนรวย ผมถึงจะมีความสุข
ถ้าคุณหยุดพูดถึงสิ่งเหล่านี้ได้ ชีวิตของคุณก็จะมีความสุข
และคุณจะรู้สึกพึงพอใจกับชีวิต
ตอบคำถาม ต่อไปนี้1. บอกชื่อคน 3 คน ที่รวยที่สุดในโลก
2. บอกชื่อนางงามจักรวาล 3 คนล่าสุด
3. บอกชื่อ ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล 3 คนล่าสุด
4. บอกชื่อนักแสดงนำชาย 3 คนล่าสุด ที่ได้รับรางวัลออสการ์
นึกไม่ออกใช่ไหม? ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่มีใครหรอกที่จะจดจำคนเหล่านี้ได้ทั้งหมด คนที่ได้รับการยกย่องสรรเสริญ ก็ล้วนล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา รางวัลต่าง ๆ เมื่อวางไว้นาน ก็จะถูกฝุ่นจับ แม้แต่ผู้ชนะก็จะถูกลืมในไม่ช้า
ตอบคำถาม ต่อไปนี้
1. บอกชื่ออาจารย์ 3 ท่านที่เคยช่วยเหลือคุณในเรื่องการเรียน
2. บอกชื่อเพื่อน 3 คนที่ช่วยเหลือคุณในยามที่คุณต้องการ
3. นึกถึงคน 3 คนที่ทำให้คุณรู้สึกว่า คุณได้เป็นคนพิเศษ
4. บอกชื่อคน 3 คนที่คุณอยากใช้เวลาด้วย
นึกออกง่ายกว่าใช่ไหม? นั่นเป็นเพราะว่า คนที่มีความหมายต่อชีวิตคุณ ไม่ได้เป็นคนที่ต้องเป็นที่สุด ไม่ได้มีเงินมากที่สุด ไม่ต้องได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะยังมีคนใกล้ตัวคุณอีกหลายคน ที่ห่วงใยคุณ คอยให้การดูแลคุณ และเวลาที่มีอะไรเกิดขึ้น ก็จะคอยอยู่เคียงข้างคุณ
... ไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะมีความสุข มากกว่าช่วงเวลา ณ ปัจจุบันนี้.. ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับช่วงเวลาปัจจุบัน
สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่ กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้
๑. อย่าเปรียบเทียบ ชีวิตของตัว เองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขา มีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง
๒. อย่าคิดทางลบ เกี่ยวกับ เรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลก ในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิด ทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
๓. อย่าทำอะไร เกินกว่าที่ตัวเองทำได้ ...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
๔. อย่าเอา จริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขา ไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
๕. อย่า เสียเวลา และพลังงานอันมีค่าของคุณ กับ เรื่องหยุมหยิม หรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
๖. จงฝันตอนตื่น มากกว่าตอน หลับ
๗. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่าๆปลี้ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว
๘. ลืมเรื่อง ขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามี หรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
๙. ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร... จงอย่าเกลียดคนอื่น
๑๐. ประกาศ สงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
๑๑. ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
๑๒. จงเข้าใจเสียว่า ชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียน รู้ และ ปัญหาเป็น เพียง ส่วนหนึ่งของหลักสูตร ซึ่งมาแล้วก็หาย ไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอด ชีวิต
๑๓. จง ยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
๑๔. คุณ ไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถก เถียงกับคนอื่น หรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกัน ได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร
แล้ว เราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้าง เราล่ะ?
๑. อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ
๒. จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
๓. จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
๔. จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ
๕. พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
๖. คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่ เรื่องของคุณสักหน่อย
๗. งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหา สุขภาพ ดังนั้น อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด
และ ถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้ ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้
๑. ทำสิ่งที่ควรทำ
๒. อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่สวย ไม่น่ารื่นรมย์ จงทิ้ง ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม?
๓. เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผล ทุกอย่างได้
๔. ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด เดี๋ยว มันก็เปลี่ยน
๕. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน จงลุก จากเตียง แต่งตัว และปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย... get up, dress up and show up.
๖. สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
๗. ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้ อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า หรือสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
๘. เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุข เสมอ...ดังนั้น ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า
และสุดท้ายที่สำคัญที่สุด
"ส่งบทความที่ต่อไปให้คน ที่คุณรักและห่วงหาอาทรด้วย..."
Tuesday, 14 December 2010
"จริงจัง หนักแน่น ตั้งใจให้แตกต่าง"
"จริงจัง หนักแน่น ตั้งใจให้แตกต่าง" ทำไมต้องเป็นแบบนั้น เข้าใจไหม ความหมายคืออะไร หรือมีความหมายเป็นนัยอะไรแอบแฝง...
จริงจัง มีอะไรน่าจะเกี่ยวเนื่องกันได้บ้าง คิดถึงอะไรได้บ้าง ทุ่มเท ใส่ใจ ให้ความสำคัญ สนอกสนใจ
หนักแน่น มีอะไรน่าจะเกี่ยวเนื่องกันได้บ้าง คิดถึงอะไรได้บ้าง มั่นใจ มุ่งมั่น ตั้งใจ
ถ้าทำให้เหมือนละ มีอะไรน่าจะเกี่ยวเนื่องกันได้บ้าง คิดถึงอะไรได้บ้าง ใครๆก็ทำกัน เป็นรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน ตามทำนองคลองธรรม ทำให้ถูกระเบียบ ซ้ำซากจำเจ
แตกต่างล่ะ มีอะไรน่าจะเกี่ยวเนื่องกันได้บ้าง คิดถึงอะไรได้บ้าง คิดนอกกรอบ สร้างรูปแบบใหม่ๆ สร้างสีสัน ไม่ซ้ำเดิม ไม่เหมือนใคร
สรุปแล้ว ดีหรือไม่ดี ต่างกันยังไง เอาแบบไหนดี ใครสามารถกำหนดความผิดถูก ใครตัดสินได้ หรือเลือกทั้งหมดเลย แล้วรวมเอามาทำให้ดี ดึงจุดเด่นแต่ละเรื่องมาใช้ดีไหม
จริงจัง มีอะไรน่าจะเกี่ยวเนื่องกันได้บ้าง คิดถึงอะไรได้บ้าง ทุ่มเท ใส่ใจ ให้ความสำคัญ สนอกสนใจ
หนักแน่น มีอะไรน่าจะเกี่ยวเนื่องกันได้บ้าง คิดถึงอะไรได้บ้าง มั่นใจ มุ่งมั่น ตั้งใจ
ถ้าทำให้เหมือนละ มีอะไรน่าจะเกี่ยวเนื่องกันได้บ้าง คิดถึงอะไรได้บ้าง ใครๆก็ทำกัน เป็นรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน ตามทำนองคลองธรรม ทำให้ถูกระเบียบ ซ้ำซากจำเจ
แตกต่างล่ะ มีอะไรน่าจะเกี่ยวเนื่องกันได้บ้าง คิดถึงอะไรได้บ้าง คิดนอกกรอบ สร้างรูปแบบใหม่ๆ สร้างสีสัน ไม่ซ้ำเดิม ไม่เหมือนใคร
สรุปแล้ว ดีหรือไม่ดี ต่างกันยังไง เอาแบบไหนดี ใครสามารถกำหนดความผิดถูก ใครตัดสินได้ หรือเลือกทั้งหมดเลย แล้วรวมเอามาทำให้ดี ดึงจุดเด่นแต่ละเรื่องมาใช้ดีไหม
Thursday, 9 December 2010
Wednesday, 8 December 2010
Tuesday, 7 December 2010
Subscribe to:
Posts (Atom)