Friday, 6 January 2012

เทคนิคการสร้างภาพลักษณ์ของตนเองด้วยกลยุทธ์ “ การตลาด ”

การตลาดไม่ใช่แต่คนที่อยากจะเป็นนักการตลาดจำเป็นจะต้องรู้และเข้าใจเท่านั้น ในทุกสายอาชีพย่อมต้องรู้และสามารถกำหนดกลยุทธ์การตลาดเพื่อสร้างความได้เปรียบของตนเองให้ได้ โดยคุณไม่จำเป็นต้องรู้หลักการ ระบบ ทฤษฎี และวิธีการด้านการตลาดดั่งเช่นนักการตลาด แต่คุณควรจะรู้ว่าทำอย่างไรในการเข้าถึงกลุ่มคนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกค้าที่มาใช้บริการของคุณเอง

แล้วทำไมคุณจะต้องรู้เทคนิคและกลยุทธ์การตลาด : การตลาดเป็นเสมือนสะพานเชื่อมให้คนอื่นรู้จัก รับรู้ และยอมรับในทักษะและความสามารถของเรา ลองคิดดูดีๆ ว่าถ้าคุณอยู่เฉย ๆ แล้วจะมีใครสักกี่คนรู้ว่าคุณเป็นคนมีความรู้ และความสามารถ … จะมีใครสักกี่คนอยากจะติดต่อและเสนองานให้กับคุณ ตัวอย่างเช่น เวลาคุณสมัครงาน ถ้าคุณนั่งเงียบรอให้ฝ่ายบุคคลหรือผู้จัดการสายงานสัมภาษณ์คุณเพียงฝ่ายเดียว แล้วคุณเพียงแค่ตอบคำถามที่ถูกถามนั้น ผลที่ตามมาก็คือ คุณอาจไม่เข้าตากรรมการเลยก็เป็นได้

การตลาดจึงเป็นกลวิธี หรือกลยุทธ์ที่จะทำให้ลูกค้า หรือคนที่เราพูดคุยด้วยสนใจ พร้อมที่จะเข้ามาหา และพร้อมที่จะยอมรับถึงความรู้และความสามารถของตัวคุณ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของคุณในสายตาของผู้อื่น การวางแผนกลยุทธ์การตลาดให้กับตัวเราจึงเกิดขึ้นได้ในทุกสายอาชีพ จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์การตลาดที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ดังนั้นดิฉันจึงขอนำเสนอเทคนิควิธีการกำหนดกลยุทธ์ด้านการตลาด ดังภาพแสดงต่อไปนี้




กลยุทธ์ด้านการตลาดต้องเริ่มต้นจาก “ ตัวเรา ” ก่อน นั่นก็คือความสามารถ หรือ Competency ที่ เป็นความรู้ ทักษะ ทัศนคติ การรับรู้ ความเข้าใจของตัวเราที่มีต่อ 5Ps

เมื่อคุณรับรู้ข้อมูลทั้ง 5 Ps แล้ว ขั้นตอนถัดไปคุณควรเริ่มกำหนดกลยุทธ์ด้านการตลาด ด้วยการพยายามหาช่องทางในการสื่อสารหรือทำให้ตัวเราเป็นที่รับรู้และยอมรับในสายตาของผู้อื่น ทั้งนี้ช่องทางหรือโอกาสในการสื่อสารนั้น สามารถทำได้หลายวิธี ดังต่อไปนี้

ดังนั้นช่องทางหรือโอกาสที่คุณพยายามสร้างให้เกิดขึ้นนั้น เป็นกลยุทธ์ด้านการตลาดเพื่อมุ่งเน้นให้ลูกค้าเกิดทัศนคติที่ดี มีการรับรู้และพอใจในสินค้าหรือการให้บริการของตน และการรับรู้หรือทัศนคติของลูกค้านี้เองจะนำมาซึ่งความจงรักภักดี ความต้องการที่อยากจะใช้สินค้าและบริการของตน ก็เท่ากับว่าคุณเองยังเป็นผู้หนึ่งที่มีความสำคัญและยังอยู่ในสายตาของลูกค้าตลอดไป

ที่มา : www.hrcenter.co.th

No comments:

Post a Comment